กิจกรรมแจกของรางวัล

การทำธุรกิจในยุคปัจจุบันถือว่าแข่งขันกันสูงมาก ดังนั้นการมองหากลยุทธ์ทางการตลาดที่เหมาะสมจะช่วยกระตุ้นความรู้สึก และจูงใจให้ลูกค้าอยากเข้ามาซื้อสินค้า / บริการของคุณมากขึ้น ซึ่งการ “แจกสินค้าพรีเมี่ยม” ก็นับเป็นอีกวิธีที่น่าสนใจ และได้รับความนิยมสูงมาก ทั้งนี้หากบางธุรกิจยังมีข้อสงสัยว่าการใช้กลยุทธ์ดังกล่าวตอบโจทย์มากน้อยแค่ไหน

ในยุคที่การแข่งขันทางการตลาดสูงแบบในปัจจุบันนี้ ปัญหาที่ทำให้คนทำธุรกิจต่างก็ต้องนั้งปวดหัวกันเป็นแถวจากที่เคยขายได้ดี แต่ยิ่งนานไปทำไมยอดขายยิ่งแย่ลง ไหนจะโรคระบาดอย่างโควิด19 ก็ยังทำท่าทีไม่ค่อยจะดี วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการกู้ยอดขายด้วย 7 กลยุทธ์ทางการตลาด เพิ่มยอดขาย จากการ แจกของพรีเมี่ยม 2022 แก้ปัญหายอดขายตก ให้ยอดขายกลับมาปังได้ หากคุณลองสำรวจธุรกิจของคุณและลองนำเทคนิคพวกนี้ไปปรับใช้อาจจะช่วยคุณได้ไม่มากก็น้อย

แจกสินค้าพรีเมี่ยม กลยุทธ์ทางการตลาด

1. เพิ่มรายชื่อกลุ่มเป้าหมาย

แบรนด์ B2B หลายๆ แบรนด์ มักจัดหา ebooks, ของแถมแบบ Limited Edition หรือคูปองส่วนลด เพื่อแลกกับการที่กลุ่มเป้าหมายสมัครลงทะเบียนรับข่าวสาร หรือกด Subscribe ในช่องทางต่างๆ ซึ่งกลยุทธ์นี้ช่วยรวบรวมข้อมูล อีเมลและช่องทางการติดต่อกลุ่มเป้าหมายเพื่อเก็บเอาไว้ใช้ประโยชน์ในแคมเปญการตลาดในอนาคตได้ โดยหน่วยงานวิจัยด้าน Content Marketing ในสหรัฐฯ ให้ข้อมูลว่าบริษัท B2B ร้อยละ 88 ใช้กลยุทธ์นี้เพื่อสร้างโอกาสในการขาย

กลับมาที่การขายสินค้าอุปโภคบริโภค การขายสินค้าออนไลน์ และร้านค้าออนไลน์ขนาดเล็ก ก็สามารถนำกลยุทธ์ข้างต้นมาประยุกต์ใช้ได้เหมือนกัน เช่น แจกของรางวัลเพื่อกระตุ้นให้ผู้ติดตามกด Like กด Share หรือร่วมคอมเมนต์ หรือลงทะเบียนด้วยอีเมล์เพื่อรับข่าวสาร เพื่อให้เรามีข้อมูลกลุ่มเป้าหมายและสามารถต่อยอดการตลาดที่เหมาะสมต่อไปได้ในอนาคต

2. ช่วยให้ทุกๆ คนเข้าใจว่าผลิตภัณฑ์/บริการ ของเราคืออะไร

สินค้าหรือบริการตัวอย่างที่ให้ทดลองใช้ฟรีแทบจะเป็นกลยุทธ์ทั่วไปของทุกๆ แบรนด์ ยกตัวอย่างเช่น บริษัทซอฟต์แวร์ หรือบริษัทเกมส์ ที่มักจะมี Open Beta Test ที่จำกัดระยะเวลาทดลองใช้หรือจำกัดระยะเวลาเข้าเล่นเกมส์เพื่อให้ผู้ใช้งานช่วยทดสอบระบบ แอปพลิเคชัน และเซิฟเวอร์ ซึ่งจะช่วยให้ทั้งผู้ใช้งาน กลุ่มเป้าหมาย บุคคลภายนอก สื่อต่างๆ ได้เห็นว่าผลิตภัณฑ์/บริการ ของแบรนด์นั้นๆ ทำงานอย่างไร มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลขนาดไหน เหมาะกับใคร น่าสนใจอย่างไร เป็นต้น

3. สร้างการมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์กับกลุ่มเป้าหมาย

อีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจก็คือ การจัดแข่งขันอะไรซักอย่างผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย โดยที่ร้านค้า แบรนด์ หรือผู้มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์ (Influencer) จะให้กลุ่มเป้าหมาย หรือผู้ติดตาม กด Tag เชิญชวนเพื่อนมาร่วมกิจกรรมด้วย ซึ่งหากทำถูกวิธี ย่อมสร้างผลตอบรับที่ดีต่อแบรนด์โดยมีคนจำนวนมากเข้าถึงและรู้จักผลิตภัณฑ์/บริการของเรามากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับรายงานจาก Easypromos ซึ่งเป็นบริษัทในแคนาดาที่ทำ Quiz และ Contest ผ่านโซเชียลมีเดีย โดยได้เปิดเผยว่าร้อยละ 99.3 ของผู้เข้าร่วมการแข่งขันออนไลน์ มักจะ Tag เพื่อนหรือคนรู้จักให้มาช่วยคอมเมนต์ กด Like กด Share เพื่อให้ตนเองมีโอกาสชนะสูงขึ้น

ทั้งนี้ ผลประโยชน์ของวิธีนี้ไม่ใช่แค่การรับรู้แบรนด์ที่เพิ่มขึ้น แต่ยังมีเรื่องของจำนวนผู้ติดตามที่อาจมากขึ้น ส่งผลให้การมีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดียสูงขึ้น และสร้างโอกาสขายได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

4. ได้รวบรวมความคิดเห็นอันมีค่า

รู้หรือไม่ว่า ลูกค้าเก่า คือฐานข้อมูลที่มีประสิทธิภาพมากๆ เพราะว่าลูกค้าเก่าหลายๆ คนจะรู้จักสินค้าหรือบริการของเราอยู่แล้ว รวมถึงมี Brand Loyalty สูง จึงมักที่จะยินดีและภูมิใจที่ได้ทดลองสินค้าใหม่ที่แบรนด์นั้นๆ แจกฟรีก่อนวางขายในตลาด เนื่องจากความเสี่ยงต่ำกว่าผลิตภัณฑ์โนเนมในท้องตลาด และหลังจากทดลองแล้ว ลูกค้าเก่ายังสามารถให้คำแนะนำอย่างตรงไปตรงมา และมีความน่าเชื่อถือให้กับเจ้าของแบรนด์ได้ด้วย

5. ต่อยอดกับกลยุทธ์ Upselling

เรามักจะเห็นเจ้าแห่งธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ อย่าง Amazon, Shopee, Lazada มักกำหนดการสั่งซื้อขั้นต่ำเพื่อให้ลูกค้า/ผู้ซื้อ สามารถรับโปรโมชันจัดส่งฟรีได้ ซึ่งนับเป็นวิธีที่ง่ายมาก ในการกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม 1-2 รายการก่อนจะตัดสินใจชำระเงิน ตรงกับผลการศึกษาของบริษัท UPS บริษัทขนส่งชื่อดังของสหรัฐฯ ในปี 2560 ที่พบว่า 48% ของนักชอปปิงออนไลน์ จะซื้อสินค้าอื่นเพิ่มเติมเพื่อให้ได้รับบริการจัดส่งสินค้าฟรี

ผลลัพธ์เดียวกันนี้อาจเกิดขึ้นได้ หากแบรนด์ของเรามอบผลิตภัณฑ์ฟรี หรือบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม ให้กับลูกค้าที่ซื้อสินค้า/บริการ ครบตามจำนวนเงินที่กำหนด หรืออีกวิธีหนึ่งก็คือ คุณสามารถนำสินค้าที่มียอดขายต่ำ มาขายคู่กับของแถมเล็กๆ น้อยๆ เพื่อ Boost ยอดขาย ส่วนวิธีไหนจะ Work ที่สุด คงต้องนำไปทดลองใช้ด้วยตัวเองดู

สินค้าพรีเมี่ยม คืออะไร ของหรูหรา หรือ ของแถม ของแจก?

ของพรีเมี่ยมคือ ?

คำว่า ของพรีเมี่ยม หรือ สินค้าพรีเมี่ยม ที่หลายๆคนคงเคยได้ยินกันมาตอนได้รับของจากห้าง ร้าน บริษัท ที่ทำงาน หรือเพื่อนๆเค้าพูดกัน แต่เราก็ยังไม่ค่อนแน่ใจในความหมายของคำๆนี้ และยังคงตั้งคำถามว่า ของพรีเมี่ยมที่เค้าพูดหมายถึงอะไรนะ? ของขวัญ ของแถม ของที่ระลึก คือสินค้าพรีเมี่ยม รึเปล่านะ? ทำไมเราชอบได้รับของเหล่านี้ เค้าให้ของเหล่านี้ทำไม? แล้วของพวกนี้จำเป็นต้องราคาแพงไหม?

ของพรีเมี่ยม ถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้

ของพรีเมี่ยมประเภทนี้ หมายถึง ของแจก ของแถม ของชำรวย หรือของสมนาคุณต่างๆ ซึ่งคนไทยเรารู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี ส่วนใหญ่แล้วของพรีเมี่ยมแบบ Gimmick จะมีราคาไม่สูงมาก แต่ในขณะเดียว ก็อาจไม่ใช่ของพรีเมี่ยมที่แปลกใหม่ อาจเป็นของใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป เช่น แก้วน้ำ หมวก ถุงผ้า สมุด ปากกา และกระเป๋าผ้า เป็นต้น

ของพรีเมี่ยมประเภทนี้ ผู้รับมักจะรู้สึกถึงคุณค่า มีคุณค่าทางจิตใจหรือเป็นของมีค่า มีความพิเศษไม่เหมือนใคร ซึ่งแบ่งออกเป็นลักษณะต่างๆ ดังต่อไปนี้

Authenticity : ของพรีเมี่ยม ที่มีการรับประกันหรือมีการรับรองหลังการขาย
Confidence : ของพรีเมี่ยม ที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ซื้อ
Quality : ของพรีเมี่ยมที่ดี มีคุณภาพ
Rarity : ของพรีเมี่ยมที่หายากและไม่เหมือนใคร
Sensuality : ของพรีเมี่ยมที่ทำให้รู้สึกอยากครอบครอง

ของพรีเมี่ยม ในเชิงธุรกิจ เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยส่งเสริมด้านการตลาด ช่วยกระตุ้นการรับรู้แบรนด์ สร้างภาพลักษณ์ให้กับธุรกิจ อีกทั้งยังสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าด้วย ไม่เพียงแต่ช่วยรักษาฐานลูกค้าเท่านั้น แต่ยังเป็นการขยายฐานลูกค้าให้กว้างขวางมากขึ้น

เมื่อได้รู้แล้วว่าของพรีเมี่ยมคืออะไร มีลักษณะเป็นแบบไหน หรือมีกี่ประเภท สิ่งหนึ่งที่คุณควรรู้คือ หากคุณต้องการของพรีเมี่ยมจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น ของพรีเมี่ยมที่หายาก ไม่ซ้ำใคร มีคุณภาพสูง หรือเป็นของแจก ของแถม ของชำร่วยต่างๆ หากต้องการของพรีเมี่ยมจำนวนมาก ทางเลือกที่น่าสนใจคือ ใช้บริการบริษัทรับผลิตของพรีเมี่ยมโดยตรง เพราะตอบโจทย์ได้ดีกว่า สามารถสั่งผลิต ของพรีเมี่ยม ราคาถูก ภายใต้แบรนด์หรือโลโก้ธุรกิจของคุณเอง ที่สำคัญเลยคือ ช่วยประหยัดต้นทุนได้มากกว่า แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น ก็ต้องเลือกบริษัทรับผลิตของพรีเมี่ยม ที่มีคุณภาพ มีบริการที่ดี เป็นบริษัทที่เชื่อถือได้ เพื่อให้คุณได้รับความคุ้มค่ามากที่สุด

ทำไมเราชอบได้รับแจก ของแถม ของพรีเมี่ยม เค้าให้ของพรีเมี่ยมกันทำไม?

ในเชิงการตลาด สินค้าพรีเมี่ยมนั้นมีความสำคัญมาก เป็นเหมือนสินค้าส่งเสริมการขาย ที่สามารถช่วยสร้าง Awareness ทำให้ผู้ได้รับจดจำผู้ให้ และยังสร้าง Brand Identification ทำให้แบรนด์แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เช่น สำหรับการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ การแจก ของขวัญ ของที่ระลึก ของแถม จะทำให้คนที่ยังไม่รู้จักผู้ให้ ได้เริ่มรู้จักกับแบรนด์ของผู้ให้มากขึ้น สำหรับบริษัทที่มีฐานลูกค้าอยู่แล้ว ของที่ระลึก ของแถม ของพรีเมี่ยม คือ ของขวัญแทนคำขอบคุณ และในขณะเดียวกัน เมื่อผู้รับได้ใช้สินค้าเหล่านั้น ก็ช่วยทำให้ย้ำให้ลูกค้าเก่าไม่ลืมแบรนด์ของผู้ให้ และในบางกรณีสินค้าพรีเมี่ยมก็ยังสามารถกระตุ้นยอดขายของของสินค้าหลักในแต่ละแบรนด์ด้วย

สินค้าพรีเมี่ยม จำเป็นต้องราคาแพงไหม?

ถึงตรงนี้ หลายๆคนน่าจะพอเข้าใจความหมายของสินค้าพรีเมี่ยม และเห็นถึงความสำคัญของสินค้าพรีเมี่ยมแล้ว แต่ว่าการลงทุนกับสินค้าพรีเมี่ยมนั้น เราต้องใช้งบประมาณเยอะเท่าไหร่กับของแถม สินค้าแต่ละชิ้นแพงมากไหม แล้วตรงไหนถึงเรียกว่าพอดี? คำถามเหล่านี้ที่ตอบค่อนข้างยาก เพราะโดยส่วนมาก การเลือกสินค้าพรีเมี่ยมที่ดีจะต้องคำนึงถึงหลายๆปัจจัย เช่น แคมเปญในการใช้สินค้าพรีเมี่ยมเพื่อแจก งบประมาณ จำนวนสินค้า ระยะเวลาการในใช้งานของสินค้า และ อื่นๆ แต่น้องมันดีอาจจะพอช่วยสรุปลงมาเป็น 3 ตัวแปรกว้างๆ ซึ่งจะมีผลต่อการเลือกซื้อ สินค้าพรีเมี่ยม

ระยะเวลาการใช้งาน

สินค้าแต่ละชนิดมีระยะเวลาการผลิตที่แตกต่างกัน บางชิ้นเป็นสินค้าพร้อมส่ง บางชิ้นต้องเริ่มผลิตใหม่ นอกจากนั้นยังมีระยะเวลาการในการขนส่งสินค้า และการกระจายสินค้าเพื่อให้ถึงมือลูกค้า ซึ่งวันที่ในการที่จะใช้สินค้า สามารถเป็นตัวแปรหลักๆที่จะช่วยกำหนดตัวเลือกของสินค้าได้ ถ้างานแร่งด่วนมาก อาจจะจำเป็นต้องหาสินค้าในสต็อก เป็นต้น

งบประมาณสินค้าพรีเมี่ยม

ในที่นี้รวมทั้ง จำนวนของสินค้า งบประมาณทั้งหมด และงบประมาณต่อชิ้น ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจเลือกสินค้าพรีเมี่ยม เช่น ถ้าเรามีงบประมาณทั้งหมดจำกัด และต้องการของแถมให้ผู้รับได้จำนวนมากๆ จะมีผลทำให้งบประมาณต่อชิ้นลดลง แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าเราแจกในกลุ่มผู้รับจำนวนไม่เยอะ เราก็จะมีงบประมาณต่อชิ้นสำหรับสินค้าพรีเมี่ยมเพิ่มมากขึ้น

คุณภาพของสินค้าพรีเมี่ยม

การเลือกสินค้าคุณภาพกลางๆ หรือคุณภาพสูง นั้นมีผลกระทบทั้งต่อราคาของสินค้าพรีเมี่ยม และ ระยะเวลาในการผลิต เช่น สินค้าคุณภาพสูงบางชิ้นต้องการระยะเวลาการผลิตที่นานขึ้น และ สินค้ามีคุณภาพสูง ราคาย่อมสูงขึ้นตามกันมา ซึ่งการแจกสินค้าคุณภาพสูง หรือเกรดกลางๆนั้น ผู้ให้ควรคำนึงถึงการใช้งานของผู้รับด้วย ซึ่งสินค้าของทางร้าน ผ่านการตรวจสอบคุณภาพก่อนจัดส่งให้ลูกค้า และถ้ามีความเสียหายจากการผลิตใดๆ เอากลับมาคุยกับน้องมันดีได้ น้องมันดีพร้อมดูแลพี่ๆหลังบริการค่ะ

สินค้าพรีเมี่ยมที่ถูกใจผู้ให้ และตรงใจผู้รับมีรึป่าว?

ของพรีเมี่ยม ในปัจจุบันนั้นมีหลากหลายมาก เช่น แก้วน้ำ กระเป๋า ถุงผ้า ตุ๊กตา สมุด แฟลชไดรฟ์ ปากกา เสื้อ และอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้การเลือกหาของที่ระลึก ของแถม ของพรีเมี่ยม ที่จะตรงตามความต้องการของผู้ให้ และตรงกับใจของผู้รับอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

นอกเหนือจากระยะเวลาการใช้สินค้า งบประมาณ และคุณภาพสินค้าแล้ว การแจกสินค้าพรีเมี่ยมควรต้องคำนึงถึงกลุ่มของผู้ที่รับสินค้าด้วย การหาสินค้าที่ตรงใจผู้รับจะสามารถส่งเสริมการขาย ช่วยสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ และยังทำให้กลุ่มผู้รับจดจำแบรนด์ของเราได้มากขึ้นด้วย ดังนั้นก่อนการเลือกหาสินค้าพรีเมี่ยม เราควรวิเคราะห์ผู้รับแจกสินค้าของเราก่อน เช่น เป็นกลุ่มนักบริหารที่ทำงานร่วมมือกับบริษัทมากนาน กลุ่มพนักงานในบริษัท กลุ่มคนขับรถบรรทุก เป็นต้น

การวิเคราะห์วัตถุประสงค์ ของการแจกสินค้าพรีเมี่ยมให้กับกลุ่มคนผู้รับ ก็สามารถช่วยให้เราหาสินค้าที่ตรงใจผู้รับได้ด้วยเช่นกัน เช่น ของแถม สำหรับผู้ร่วมงานคอนเสริต ให้ผู้เข้าร่วมได้ใช้ในงาน แจกช่วงสงกรานต์ ให้ใช้เล่นน้ำสงกรานต์ แจกวันเกิดพนักงานบริษัท เพื่อให้นำมาใช้งานในบริษัทได้

ข้อดีของการเลือกใช้กลยุทธ์แจกสินค้าพรีเมี่ยมให้กับลูกค้า

ลูกค้าเกิดแรงจูงใจอยากซื้อสินค้า หรืออยากใช้บริการ
ตามที่บอกว่าเมื่อได้รับของฟรี เป็นใครก็ต้องประทับใจพร้อมช่วยสร้างแรงจูงใจ เป็นตัวกระตุ้นให้อยากซื้อสินค้า หรือเข้าใช้บริการจากธุรกิจของคุณ โอกาสสร้างยอดขาย ผลกำไรย่อมสูงตามไปด้วยเช่นกัน

สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์หรือธุรกิจ
การแจกของพรีเมี่ยมจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ดี ๆ ให้กับแบรนด์หรือธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งผลลัพธ์ก็ต่อเนื่องมาจากความประทับใจคล้าย ๆ กับในข้อแรก เมื่อทุกคนรู้สึกถึงความเป็นมิตร ความจริงใจ ธุรกิจก็เติบโตไม่ยาก

สร้างการรับรู้ในวงกว้างได้มากขึ้น
เมื่อคุณสกรีนโลโก้แบรนด์ หรือมีข้อมูลติดต่อ การแจกสินค้าพรีเมี่ยมแต่ละครั้งจึงไม่ใช่แค่ให้ผู้ที่ได้รับคนเดียวรู้จัก แต่คนอื่น ๆ รอบตัวเขา หรือแม้คนที่ผ่านไปมาก็มีสิทธิ์เห็นโลโก้หรือแบรนด์ของคุณบนของพรีเมี่ยมดังกล่าวได้อย่างง่ายดาย เมื่อเห็นบ่อยครั้งขึ้นก็จะเกิดความคุ้นชิน เป็นการย้ำเตือนเมื่อใดที่คิดอยากซื้อสินค้า / บริการกลุ่มเดียวกันก็จะนึกถึงคุณเป็นลำดับแรก